พระพุทธชินราชอินโดจีน สังฆาฏิสั้น หน้าแหลม (ไม่มีโค๊ต) ปี 2485

+ Free Shipping

พระพุทธชินราชอินโดจีน สังฆาฏิสั้น หน้าแหลม (ไม่มีโค๊ต) ปี 2485 กลุ่มสังฆาฏิสั้น “หน้าแหลม” พระพุทธชินราชอินโดจีน (ไม่มีโค๊ต)


พระพุทธชินราชรุ่นอินโดจีน
นี้เริ่มมีการดำริที่จะจัดสร้างเนื่องจากตอนนั้นมีกรณีพิพาทกับฝรั่งเศสเรื่องสิทธิเหนือดินแดนของอินโดจีน ในราวปีพุทธศักราช 2483-2484 วัตถุประสงค์เพื่อแจกจ่ายให้แก่ทหารที่ไปราชการสงครามและให้ประชาชนโดยทั่วไปได้มีโอกาสเช่าบูชาต่อมาในปีปีพุทธศักราช 2485 สงครามโลกครั้งที่ 2 ก็กำลังก่อตัวขึ้นในภูมิภาคนี้จึงได้มีการจัดสร้างพระพุทธชินราชรุ่นอินโดจีนขึ้น..

จัดพิธีการสร้างขึ้นที่วัดสุทัศน์และปลุกเสกในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ในวันที่ 21 มีนาคม เสาร์ 5 (วันเสาร์ขึ้น 5 ค่ำเดือน 5)
ปีพุทธศักราช 2485 ดำเนินการสร้างและออกแบบโดยกรมศิลปากรโดยมีท่านเจ้าพระคุณสมเด็จพระสังฆราช (แพ) เป็นองค์ประธานและท่านเจ้าคุณสัจจญาณมุนี (สนธิ์) เป็นผู้ดำเนินการได้ทำพิธีลงทองถูกต้องตามตำราการสร้างพระกริ่งของวัดสุทัศน์ทุกประการนอกจากนั้นยังมีแผ่นทองจากพระเกจิอาจารย์ที่เข้าร่วมพิธีอีกจำนวนหนึ่งจึงนับได้ว่าเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ในสมัยรัตนโกสินทร์พิธีหนึ่งซึ่งเพียบพร้อมไปด้วยคณาจารย์ทั้ง 108 รูป ที่มีชื่อเสียงในยุคนั้นจากทั่วประเทศเลยทีเดียว พระพุทธชินราชอินโดจีนลอยองค์ปีพุทธศักราช 2485 แบบตอกโค๊ด พระชุดนี้ได้พิธีหล่อ และปลุกเสกในพระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ
โดยมีท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระสังฆราชแพ (ติสสเทวะ) เป็นองค์ประธานและท่านเจ้าคุณศรี(สนธิ์) เป็นผู้ดำเนินการ
ได้ทำพิธีลงทองถูกต้องตามตำหรับของการสร้างพระกริ่งและพระชัยของวัดสุทัศน์นี้แล้วยังมีแผ่นทองจากท่านพระคณาจารย์ที่นิมนต์
มาร่วมพิธีปลุกเศกสมทบหล่อหลอมในครั้งนี้อีกด้วย จึงนับได้ว่าพิธีหล่อพระรูปจำลองพระพุทธชินราชเป็นพิธีที่ยิ่งใหญ่ในสมัยรัตนโกสินทร์พิธีหนึ่ง..

 

พระพุทธชินราชอินโดจีน
สมเด็จพระสังฆราช (แพ) ประธาน พระคณาจารย์ ๑๐๘ รูป ร่วมปลุกเสก.
คำขวัญที่ว่า สงครามมักก่อเกิดวีรบุรุษ แต่คงใช้กับเมืองไทยไม่ได้ คำขวัญของคนไทย คงต้องว่า สงครามมักก่อเกิดพระดัง ไม่มีสมัยไหน ที่คนไทยจะตื่นตัวและเกิดเลือดรักชาติมาก เท่าสมัยสงครามอินโดจีน อาจจะเป็นว่าคนไทย คงเก็บกดที่ถูก พวกฝรั่งมังค่า มากดขี่ยึดแผ่นดินบางส่วนของเราไป เมื่อจอมพลป.ประกาศสงครามกับฝรั่งเศส เพื่อเรียกร้องดินแดนคืน ทำให้กระแสรักชาติช่วงนั้นรุนแรงมาก แม้แต่พระเกจิอาจารย์ ก็ตื่นตัว อยากจะช่วยบ้านเมือง จึงมีการสร้างพระเครื่องขึ้นมากมาย เฉพาะที่กรุงเทพฯวัดใหญ่ๆเช่น วัดสุทัศน์ วัดชนะสงคราม วัดราชบพิตฯ แม้แต่ที่วัดดอนศาลา พระอาจารย์เอียดก็สร้างพระขึ้นมาแจกในยุคนั้นเช่นกัน

พระพุทธชินราชอินโดจีน

เมื่อปี ๒๔๘๓ กลิ่นอายสงครามได้กระจายอยู่ทั่วภูมิภาคอินโดจีน หลายประเทศตกอยู่ในภาวะสงคราม ประเทศไทยก็คือหนึ่งในนั้น ทั้งๆ ที่พยายามหลีกเลี่ยงทุกวิถีทาง เพราะรัฐบาลและคนไทยต่างก็รู้ดีว่า ผลพวงจากสงครามท้ายที่สุดแล้วก็จะเหลือแค่เพียง “ความสูญเสีย” ในภาวะสงครามสิ่งที่เป็นเสมือนเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจของคนไทยก็คือ “สิ่งศักดิ์สิทธิ์-พระคู่บ้านคู่เมือง” แต่สำหรับทหารที่ต้องอยู่แนวหน้า “ พระเครื่อง ” ถือเป็นมงคลวัตถุคู่กายที่หลายคนต้องพกพาหาติดตัวไป

“ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ”

ด้วยเหตุนี้เอง ชาวไทยในแนวหลัง นำโดย “ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย ” จึงตัดสินใจดำเนินงานสร้าง “พระพุทธชินราช” จำลองขนาดบูชาขึ้นมา พร้อมทั้ง พระพุทธชินราชขนาดเล็กแบบหล่อที่สามารถคล้องคอได้ ซึ่งแต่เดิมเป็นความตั้งใจของ ๒ สมาคมพุทธฯ คือ “พุทธธรรมสมาคม” และ “ยุวพุทธศาสนิกธรรม” แต่ต้องระงับเรื่องค้างไว้ตั้งแต่ปี ๒๔๘๓ เพราะเกิดสงครามอย่างหนัก และเมื่อสงครามอินโดจีนสงบลง ในปี ๒๔๘๕ พุทธสมาคมแห่งประเทศไทย จึงเดินหน้าสานงานสร้าง “พระพุทธชินราชอินโดจีน” อย่างจริงจัง

พิธีเททองหล่อ

พระพุทธชินราชอินโดจีน ปี ๒๔๘๕ ได้ประกอบพิธี เททองหล่อ ที่วัด พระศรีรัตนมหาธาตุ จ.พิษณุโลก ในวันเสาร์ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๓ ตรงกับวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๘๕ ก่อนที่คณะกรรมการ พุทธสมาคมจะมากราบทูล ขอพระเมตตา ท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) วัดสุทัศนเทพวราราม ในเรื่องการประกอบพิธีพุทธาภิเษกทั้งนี้พระองค์ทรงพระเมตตาให้คณะกรรมการพุทธสมาคมนำพระพุทธชินราช รุ่นอินโดจีน ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถ วัดสุทัศนเทพวราราม ในวันที่ ๒๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยมีท่านเจ้าประคุณ สมเด็จพระสังฆราช (แพ ติสฺสเทวมหาเถร) เป็นองค์ประธาน และท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณมุนี (สนธิ์) เป็นแม่งานผู้ดำเนินการ พร้อมทั้งได้ ทำพิธี เททองหล่อพระตามตำรับตำราการสร้างพระกริ่ง พระชัยวัฒน์ของวัดสุทัศน์อย่างถูกต้องครบถ้วนสมบูรณ์

พิธีพุทธาภิเษก พระพุทธชินราชอินโดจีน

พิธีพุทธาภิเษก พระพุทธชินราชอินโดจีน ที่จัดขึ้นในเวลานั้นถือว่ายิ่งใหญ่เป็นประวัติการณ์ จนเป็นที่กล่าวขวัญมาถึงทุกวันนี้ เพราะพระคณาจารย์ ทั่วประเทศแ ละพระเกจิอาจารย์ชื่อดังในยุคนั้นได้มอบแผ่นพระยันต์ พร้อมทั้งเดินทางมาร่วม เมตตาอธิษฐานจิต กันอย่างมากมาย

การสร้าง

การสร้าง พระพุทธชินราชอินโดจีน ปี ๒๔๘๕ พล.ร.ต.หลวงธำรงนาวาสวัสดิ์นายกพุทธสมาคมและคณะกรรมการ กำหนดไว้ให้สร้างเพียงแค่ ๒ แบบ คือ พระบูชา และ พระเครื่อง โดยได้กรมศิลปากรเข้ามาช่วยดูแลการหล่อและออกแบบพิมพ์พระ พระบูชา ที่จัดสร้างในคราวนี้ได้จำลองแบบจากองค์พระพุทธชินราช วัดใหญ่ เมืองพิษณุโลก โดยใช้กรรมวิธีการหล่อเป็นพระขัดเงา จากหลักฐานบันทึก การสร้าง ได้ระบุไว้ว่า

“พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในครั้งนี้มีขนาดหน้าตักค่อนข้างใหญ่ ก่อนจะส่งไป ให้ทุกจังหวัด ทั่วเมืองไทยไว้สักการบูชา และถ้าประชาชนคนไหน ปรารถนา อยากได้ พระบูชาไว้เป็น ส่วนตัว ต้องแจ้งความจำนงเป็น ลายลักษณ์อักษร พร้อมทั้ง ส่งเงินค่าจัดสร้างองค์ละ ๑๕๐ บาท ไปให้คณะกรรมการ ตรวจเงินแผ่นดิน ในพระบรมมหาราชวัง เพื่อให้ช่างจัดสร้าง ตามจำนวนที่แจ้งความจำนงไว้เท่านั้น” ในส่วนของ พระเครื่อง คณะผู้ดำเนินงานได้ใช้กรรมวิธี ๒ แบบ คือ “หล่อ” และ “ปั๊ม” พระหล่อ จัดสร้างประมาณ ๙๐,๐๐๐ องค์ เป็นพระเนื้อโลหะผสม โดยมีทองเหลือง เป็นหลัก แต่สุดท้าย คัดเหลือ สภาพสมบูรณ์ ๘๔,๐๐๐ องค์ ซึ่งให้ความหมายเท่ากับพระธรรมขันธ์

ตอกเป็นรูปตรา “ธรรมจักร” และ “อกเลา”

เสน่ห์ของพระเครื่อง พระพุทธชินราชอินโดจีน แบบหล่อจะอยู่ที่ผิวพระและโค้ดใต้ ฐาน จะตอกเป็นรูปตรา “ธรรมจักร” และ “อกเลา” ซึ่งอกเลานี้ได้คัดลอกแบบ มาจากรูปอกเลาที่ติดอยู่หน้าบานประตูพระวิหารวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ (วัดใหญ่) จ. พิษณุโลก

พระพุทธชินราชอินโดจีน แบบหล่อนี้ในตอนแรกได้หล่อ “อกเลานูน” ติดไว้บริเวณใต้ฐานพระ แต่ภายหลังได้เปลี่ยนเป็นก้นเรียบ แล้วใช้วิธีตอกโค้ดแทนจนครบ ๘๔,๐๐๐ องค์ ดังนั้นพระในส่วนที่เหลือจึงไม่ได้ตอกโค้ด

ในส่วนของราคาทางพุทธสมาคม นำ พระพุทธชินราชอินโดจีน ออกให้เช่า บูชาองค์ละ ๑ บาท ถ้าองค์ไหนที่สภาพ สวยสมบูรณ์ราคาจะอยู่ที่ ๑.๕๐ บาท สำหรับพระพุทธชินราชแบบปั๊มได้ทำเป็นเหรียญลักษณะคล้ายใบเสมา ด้านหน้าเป็น รูปพระพุทธชินราชมีซุ้มเรือนแก้ว ส่วนด้านหลัง เป็นรูปอกเลา สร้างเป็น เนื้อทองแดงรมดำ จำนวน ๓,๐๐๐ เหรียญ ราคาค่าบูชาเหรียญละ ๕๐ สตางค์ สำหรับเหรียญรุ่นนี้ อนาคตจะกลายเป็นหนึ่งในสุดยอดเหรียญยอดนิยม ของวงการ


เมื่อเราคิดถึงท่าน ท่านก็จะมาอยู่ในใจเรา เมื่อใดที่เรามีทุกข์ร้อนใจ เพียงระลึกถึงคำสอนของท่าน ท่านก็จะมาอยู่ข้างเรา…..”

พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย

web (main) พระเครื่อง  : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง

Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507

Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/

IG : https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/

This amulet get a lifelong warranty.
If you are audited there was spurious.
My shop (Ponsrithong Amulet) Refund the full amount lifelong.
And in the future if you want to sell amulet with the warranty card.
The Center amulet welcomes to buy in the market price of 20%.
by bule chiangrai +66877124640

Loading

Reviews

There are no reviews yet.

Be the first to review “พระพุทธชินราชอินโดจีน สังฆาฏิสั้น หน้าแหลม (ไม่มีโค๊ต) ปี 2485”

Your email address will not be published. Required fields are marked *

Shopping Cart