พระกริ่งหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี รุ่นแรก พิมพ์กรรมการ จำนวน 108 องค์
เป็นพระกริ่งที่สร้างร่วมกันระหว่างหลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม และหลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี โดย อาจารย์กิจจา วาจาสัตย์ ท่านได้ขออนุญาตหลวงพ่ออุตตมะจัดสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ สมทบทุนสร้างพระอุโบสถ วัดแก้วเจริญ อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
จำนวนการสร้าง พระกริ่ง 1,600 องค์ พร้อมสร้างพิเศษต่างหากอีกเป็นพิมพ์กรรมการ จำนวน 108 องค์เป็นเนื้อนวะ
แต่งกริ่งโดย อาจารย์ นิรันดร์ แดงวิจิตร(หนู)ซึ่งเป็นอดีตพระฐานานุกรมในสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ เจาะฐานพร้อมบรรจุมวลสารอันวิเศษและเกศาของสมเด็จพระสังฆราช แพ และมวลสารอันศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว เป็นต้น….
สำหรับพระะชัยวัฒน์ สร้าง จำนวน 2,000 องค์ เททองเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2520 ณ วัดสุทัศน์ฯ ทั้งนี้ได้มอบถวายให้วัดแก้วเจริญ 1,000 ชุด
มวลสารโลหะที่นำมาสร้างพระกริ่งและพระชัยวัฒน์ชุดนี้
1.ชนวนรวมพิธีต่างๆ ของวัดสุทัศน์ฯ น้ำหนักรวม 40๐ กก. อาจารย์นิรันด์ แดงวิจิตร เมตตามอบให้,
ทองชนวนวัดเสวตฉัตร รุ่นแรก, ทองชนวนหล่อพระชัยวัฒน์ วัดหนัง
2.แผ่นทองแดงลงอักขระเลขยันต์ของเก่า หลวงพ่อพระญาณโพธิ(เข็ม) เมตตามอบให้ รวม 23 แผ่น และที่มีหลักฐาน 13 แผ่น เป็นของพระสุเมธีวรคุณ(เปี่ยม) วัดเกาะหลัก, หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ, หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา, พระมงคลราชมุนี(สนธิ์) วัดสุทัศน์, หลวงพ่อศุข วัดโตนดหลวง, หลวงพ่อดี วัดเหนือ, หลวงพ่อแจ่ม วัดวังแดง ฯลฯ
3.ตะกรุดลูกอมหลวงพ่อวิสุทธิรังสี(เปลี่ยน) วัดไชยชุมพลชนะสงคราม(วัดใต้), พระโสภณสมาจารย์(เหรียญ) วัดหนองบัว, หลวงปู่ดี เทวสังฆาราม(วัดเหนือ), หลวงปู่ใจ วัดเสด็จ รวม 27 ดอก
4.ตะกรุดที่ชื่อ”วานรสะกดทัพ” หลวงพ่อพระพุทธวิหารโสภณ(อ่ำ) วัดวงษ์ฆ้อง อยุธยา, ตะกรุดมหาปราบ หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม สมุทรสงคราม, ตะกรุดมหาคงคา โลหะเงิน หลวงพ่อเฒ่ายิ้ม วัดหนองบัว กาญจนบุรี, ตะกรุดเมตตา ทองคำหนัก ๒ สลึง หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง นนทบุรี, ตะกรุดโทน หลวงพ่อกล้าย วัดหงส์รัตนาราม ธนบุรี
5.เงินพดด้วงตรายันต์ ตราราชวัตร์ และอื่นๆรวม 25 บาท
6.โลหะเงินบริสุทธิ์ 10.50 กก.
7.ทองคำ นน.รวมประมาณ 15 บาท
8.ทองแดงบริสุทธิ์ นน.รวม 40 กก.
9.ทองลงหิน นน.รวม 15 กก.
มวลสารโลหะเหล่านี้โดยเฉพาะ เงินและทองคำ บางส่วนได้นำเข้าพิธีอาจารย์ 108 รูป ของวัดถาวรวราราม(วัดญวณ) กาญจนบุรี ตามคำสั่งของหลวงพ่ออุตตมะ เมื่อเสร็จแล้วนำมาหล่อหลอมรีดเป็นแผ่น นำไปให้หลวงพ่ออุตตมะ ลงเลขยันต์ส่วนหนึ่ง นอกนั้นนำไปลงยันต์ 108 และนะ 14 นะ ตามตำหรับของวัดสุทัศน์ฯ โดยท่านพระครูใบฎีกาถนอม คณะ 2 เมตตาลงให้, แผ่นยันต์จักพัตราธิราช 108 แผ่น อาจารย์วุฒิ เมตตาลงให้ ส่วนที่เหลือให้พระคณาจารย์ทุกรูปที่มาในงานพิธี รวม 16 รูปเมตตาลงให้ นอกนั้น นำมาลงพระคาถามงคลสูตรที่สำคัญ เช่น ชินะปัญชรคาถา ธรรมจักรกัปปวัตนสูตร และ มนต์ที่สำคัญๆ ในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน โดยทำพิธีเททองเมื่อวันที่ 10 เมษายน 2521 ณ วัดสุทัศน์ฯ
และหลังจากนั้นได้จัดพิธีพุทธาภิเษกและสวดทิพย์มนต์ ขึ้นอีกครั้งหนึ่ง ในวันเสาร์ที่ 10 มิถุนายน 2521 โดยนิมนต์พระเกจิเจ้าที่มีสมาธิจิตพิเศษในด้านต่างๆจำนวน 8 รูป นั่งปรกเป็นพิเศษอีกครั้งหนึ่ง อาทิเช่น พระสังวรวิมลเถระ (หลวงปู่โต๊ะ) วัดประดู่ฉิมพลี เป็นต้น พร้อมทั้งนำวัตถุมงคลที่สร้างทั้งหมดออกมาตั้งกลางมณฑลพิธีภายในราชวัตร ฉัตร ธง โดยมิได้มีสิ่งใดกีดขวางเลย ทั้งนี้เพื่อให้อาจารย์ทุกท่านได้เห็นรูปลักษณ์ขององค์พระและสัมผัสโดยทั่วกัน เพื่อความขลังและศักดิ์สิทธิ์
หลังจากเสร็จพิธีกรรมแล้วได้นำพระทั้งหมดให้หลวงพ่ออุตตมะนำไปปลุกเสกต่างหากเพิ่มอีกหนึ่งคืน ….หลวงพ่อท่านได้กล่าวว่า พระชุดนี้สมบูรณ์ทั้งพิธีกรรมตามตำหรับของวัดสุทัศน์ฯและความขลังความศักดิ์สิทธิ์ของพระอาจารย์ที่เปี่ยมล้นด้วยสมาธิจิต จึงเรียกว่าพุทธคุณนั้น ”ดีทั้งนอกและใน”ทุกประการ
องค์นี้สภาพสวยสมบูรณ์มาก ตอกโค้ดและหมายเลขกำกับที่ฐานด้านหลังและใต้ฐานองค์พระ องค์นี้หมายเลข ๓๓ มีรอยจารใต้ฐาน สภาพสวยสมบูรณ์มาก
สำหรับประวัติของหลวงพ่ออุตตมะนั้น หลวงพ่อเกิดเมื่อที่เมืองมุกกะเหนี่ยง ในสาธารณรัฐสังคมนิยมแห่งสหภาพพม่า ได้บรรพชาเป็นสามเณรและศึกษาทางพุทธศาสนาที่วัดมุกกะเหนียงจนจบหลักสูตร และได้เดินทางไปศึกษาต่อยังเมืองร่างกุ้ง สอบได้เปรียญธรรมชั้นเอก (ป.ธ.7) และเป็นเจ้าอาวาสวัดวังก์วิเวกการาม อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี
ส่วนประวัติโดยย่อนั้น เมื่ออายุได้ 20 ปีบริบูรณ์ หลวงพ่ออุตตมะได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุศึกษาในสำนักศาสนศึกษาในเมืองย่างกุ้ง สอบได้ชั้นสูงสุดซึ่งเรียกว่าชั้น “ปาร์คู” แต่ยังไม่ทันประกาศผลก็เกิดสงครามโลกครั้งที่ 2 ต้องอพยพหนีสงคราม ในระหว่างสงคราม พระอาจารย์จันทิมาซึ่งเป็นอุปัชฌาย์ของท่าน และเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในทางกฤตยาคมเป็นที่เลื่องลือได้ถ่ายทอดวิชาความรู้ให้ท่านจนจบสิ้น เมื่อสงครามโลกยุติ ท่านก็ได้เดินธุดงค์ไปมาระหว่างประเทศไทยกับเมืองเย ผ่านเทือกเขาตะนาวศรี ซึ่งแสนจะทุรกันดาร จนถูกกองโจรขบวนการกู้ชาติจับ แต่ท่านก็สามารถใช้วิชาความรู้รอดชีวิตมาได้
หลวงพ่ออุตตมะคุ้นเคยกับภูมิประเทศไทยเพราะเคยจำพรรษาอยู่ตามวัดต่างๆ ในท้องที่อำเภอ โพธาราม อำเภอบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี และสมุทรปราการ ครั้นเมื่อ พ.ศ. 2500 ท่านได้ลงมือสร้างวัดขึ้นที่ฝั่งตะวันตกของลำน้ำแควน้อย ชื่อวัด “วังก์วิเวการาม” เพื่อจะได้เป็นที่พึ่งของชาวไทยและชาวมอญในถิ่นทุรกันดาร จนเป็นที่รู้จักกันดีทั่วไป โดยมีประชาชนทั้งชาวไทยชาวมอญในประเทศและจากนอกประเทศ เข้ามาร่วมทำบุญมีงานรื่นเริงเป็นประจำทุกปี
ต่อมามีการสร้างเขื่อนเขาแหลมบริเวณวัดน้ำจะท่วมทั้งหมด จึงได้ย้ายวัดขึ้นไปอยู่บนเขาโดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตเป็นผู้จัดสร้าง ขณะนี้ดำเนินการก่อสร้างเกือบจะเสร็จสิ้นแล้วเหลืออยู่แต่เจดีย์ทรงสี่เหลี่ยมแบบพุทธคยาที่บริเณวัดที่เป็นสิ่งก่อสร้างที่สวยงามงดงามแห่งหนึ่ง ปัจจุบันนี้ท่านหลวงพ่อได้รับนิมนต์จากประชาชนทั่วทั้งประเทศ เพื่อไปประกอบพิธีพุทธาภิเษกทั้งในงานวัดและงานมงคลต่างๆ อยู่เสมอ มีประชาชนเลื่อมใสศรัทธามากทั้งชาวไทย และชาวมอญรวมทั้งพม่า
หลวงพ่ออุตตมะ เป็นชื่อหรือฉายาในพระบวรพระพุทธศาสนาของท่าน คือ อุตตมะ หรืออุตตโม เราทั้งหลายจึงมักนิยมเรียกนามท่านตามฉายาสงฆ์ดังที่กล่าวมานี้
หลวงพ่ออุตตมะ เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ชอบเดินธุดงค์อยู่ป่าดงมากกว่าอยู่วัดวาอาวาส ท่านถือแนวทางการประพฤติปฏิบัติพระกรรมฐานเยี่ยงพระอริยเจ้าทั้งหลายที่เคยได้กระทำมาแล้ว พร้อมกับเป็นขวัญใจของชาวไทย และชาวรามัญองค์หนึ่งในยุคนี้
“เมื่อเราคิดถึงท่าน ท่านก็จะมาอยู่ในใจเรา เมื่อใดที่เรามีทุกข์ร้อนใจ เพียงระลึกถึงคำสอนของท่าน ท่านก็จะมาอยู่ข้างเรา…..”
พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย
. https://ponsrithong.com/
web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง
Web ( มุมพระ) : มุมพระ
https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507
web (99wat) : 99วัด
http://www.ponsrithong.99wat.com/
Facebook เพจพลศรีทอง พระเครื่อง บู เชียงราย
: https://www.facebook.com/ponsrithong/
IG :https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/
![]()






![พระกริ่ง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เนื้อนวโลหะผสมทองคำแท้ ก้นเงิน วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา ปี2539 พร้อมตลับเนื้อ เหรียญ25สตางค์ แกะมือไม่ลอกไม่ดำ รับพร รับทรัพย์ กับพระกริ่งขุมทรัพย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อพุธ เป็นศิษย์ทั้งหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ท่านชำนาญเรื่องไสยศาสตร์มาก่อน เมื่อออกปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิตแล้ว จึงเกิดอิทธิฤทธิ์อย่างอัศจรรย์ ญาณหยั่งรู้ของท่าน ไม่ธรรมดา ไม่มีอะไรปิดบังได้ อำนาจจิตของท่าน ยิ่งเหนือโลก เหนือธรรมดา พระกริ่งรุ้นนี้ หลวงพ่ออธิษฐานอย่างเต็มกำลังเมื่อปี ๒๕๓๙ จึงไม่แปลกที่พระกริ่งรุ่นนี้ จะมีประสบการณ์ ครอบจักรวาล ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อพุธอนุญาติให้จัดสร้างด้วยเหตุที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ให้สร้างวัตถุมงคลอีกต่อไป รุ่นขุมทรัพย์ เป็นรุ่นสุดท้าย ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ ปลุกเสกเดี่ยว ตั้งเเต่เสาร์ ๕ ตลอดไตรมาส ปี ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ เททองเนื้อนวะผสมทองคำเเท้ หลอมรวม ได้ชื่อเรียก "ขุมทรัพย์" เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์บารมีเข้มขลัง บันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ความสุข ความเจริญโชคลาภ และความเจริญวัฒนาตลอดไป ที่อุโบสถ วัดป่าสาลวัน จังหวัด นครราชสีมา วันพุธที่ ๒๔ ม.ค. ๒๕๓๙ พระชัยวัฒน์ เสาร์ ๕ รุ่น ขุมทรัพย์ พระรุ่นนี้ทั้งชุดเด่นเรื่อง โชคลาภ เมตตามหานิยม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านมีนามเดิมว่า พุธ อินทรหา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ณ บ้านหนองหญ้าเส้ง ตำบลสันประดู่ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ 4 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม บิดามีความเสียใจเป็นอันมากจึงนำท่านย้ายมาอยู่บ้านเกิดของบิดาที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร อุปสมบท ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้ออกศึกษาหาความรู้ ในโรงเรียนประชาบาลวัดไทรทอง ท่านได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงได้ลาออกมาแล้วบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2479เมื่อมีอายุได้ 15 ปี ที่วัดอินทร์สุวรรณ บ้าน โคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมีท่าน พระครูวิบูลย์ธรรมขันธ์ เจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์เป็นพระบรรพชาจารย์ เรียนรู้ธรรม หลังจากบรรพชาแล้ว ท่านก็อาศัยอยู่กับท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์นั่นเอง ท่านได้รับเมตตา จากพระอาจารย์ให้ได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมด้วย และในพรรษาแรกนี้เอง สามเณรพุธสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี[2] และเริ่มรับการฝึกอบรมด้าน ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปีพ.ศ. 2483 ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม (วัดสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลวงพ่อได้จำพรรษาเรื่อยมาจนอายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดแห่งนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยงานพระศาสนาตลอดมา[3] และในช่วงสงครามแปซิฟิก ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2489 ระหว่างนั้นท่านเกิดอาพาธเป็นวัณโรคอย่างหนัก ต่อมาท่านได้พบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการสอนให้เพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยัง คอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา[4] จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2513[5] ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย[6] และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน[7] มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ – นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ – อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา – รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย ละสังขาร หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริอายุได้ 78 ปี พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507 Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/ This amulet get a lifelong warranty. If you are audited there was spurious. My shop (Ponsrithong Amulet) Refund the full amount lifelong. And in the future if you want to sell amulet with the warranty card. The Center amulet welcomes to buy in the market price of 20%. by bule chiangrai +66877124640](https://ponsrithong.com/wp-content/uploads/2021/03/90-300x180.jpg)
![พระกริ่ง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เนื้อนวโลหะผสมทองคำแท้ ก้นเงิน วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา ปี2539 พร้อมตลับเนื้อ เหรียญ25สตางค์ แกะมือไม่ลอกไม่ดำ รับพร รับทรัพย์ กับพระกริ่งขุมทรัพย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อพุธ เป็นศิษย์ทั้งหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ท่านชำนาญเรื่องไสยศาสตร์มาก่อน เมื่อออกปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิตแล้ว จึงเกิดอิทธิฤทธิ์อย่างอัศจรรย์ ญาณหยั่งรู้ของท่าน ไม่ธรรมดา ไม่มีอะไรปิดบังได้ อำนาจจิตของท่าน ยิ่งเหนือโลก เหนือธรรมดา พระกริ่งรุ้นนี้ หลวงพ่ออธิษฐานอย่างเต็มกำลังเมื่อปี ๒๕๓๙ จึงไม่แปลกที่พระกริ่งรุ่นนี้ จะมีประสบการณ์ ครอบจักรวาล ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อพุธอนุญาติให้จัดสร้างด้วยเหตุที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ให้สร้างวัตถุมงคลอีกต่อไป รุ่นขุมทรัพย์ เป็นรุ่นสุดท้าย ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ ปลุกเสกเดี่ยว ตั้งเเต่เสาร์ ๕ ตลอดไตรมาส ปี ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ เททองเนื้อนวะผสมทองคำเเท้ หลอมรวม ได้ชื่อเรียก "ขุมทรัพย์" เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์บารมีเข้มขลัง บันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ความสุข ความเจริญโชคลาภ และความเจริญวัฒนาตลอดไป ที่อุโบสถ วัดป่าสาลวัน จังหวัด นครราชสีมา วันพุธที่ ๒๔ ม.ค. ๒๕๓๙ พระชัยวัฒน์ เสาร์ ๕ รุ่น ขุมทรัพย์ พระรุ่นนี้ทั้งชุดเด่นเรื่อง โชคลาภ เมตตามหานิยม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านมีนามเดิมว่า พุธ อินทรหา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ณ บ้านหนองหญ้าเส้ง ตำบลสันประดู่ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ 4 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม บิดามีความเสียใจเป็นอันมากจึงนำท่านย้ายมาอยู่บ้านเกิดของบิดาที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร อุปสมบท ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้ออกศึกษาหาความรู้ ในโรงเรียนประชาบาลวัดไทรทอง ท่านได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงได้ลาออกมาแล้วบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2479เมื่อมีอายุได้ 15 ปี ที่วัดอินทร์สุวรรณ บ้าน โคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมีท่าน พระครูวิบูลย์ธรรมขันธ์ เจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์เป็นพระบรรพชาจารย์ เรียนรู้ธรรม หลังจากบรรพชาแล้ว ท่านก็อาศัยอยู่กับท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์นั่นเอง ท่านได้รับเมตตา จากพระอาจารย์ให้ได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมด้วย และในพรรษาแรกนี้เอง สามเณรพุธสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี[2] และเริ่มรับการฝึกอบรมด้าน ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปีพ.ศ. 2483 ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม (วัดสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลวงพ่อได้จำพรรษาเรื่อยมาจนอายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดแห่งนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยงานพระศาสนาตลอดมา[3] และในช่วงสงครามแปซิฟิก ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2489 ระหว่างนั้นท่านเกิดอาพาธเป็นวัณโรคอย่างหนัก ต่อมาท่านได้พบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการสอนให้เพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยัง คอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา[4] จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2513[5] ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย[6] และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน[7] มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ – นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ – อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา – รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย ละสังขาร หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริอายุได้ 78 ปี พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507 Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/ This amulet get a lifelong warranty. If you are audited there was spurious. My shop (Ponsrithong Amulet) Refund the full amount lifelong. And in the future if you want to sell amulet with the warranty card. The Center amulet welcomes to buy in the market price of 20%. by bule chiangrai +66877124640](https://ponsrithong.com/wp-content/uploads/2021/03/114-300x180.jpg)




Reviews
There are no reviews yet.