กริ่งฟ้าลั่น เจ้าคุณศรีประหยัด หรือที่รู้จักกันในนาม พระกริ่ง 79 เสาร์ห้า ฟ้าลั่น คือหนึ่งในงานสร้างชั้นครูของท่านเจ้าคุณศรีสัจจญาณเถร ผู้สืบสายตำราการสร้างพระกริ่งจากสมเด็จพระสังฆราชแพ วัดสุทัศน์ โดยถือเป็นพระกริ่งที่เกิดขึ้นจากความตั้งใจบริสุทธิ์ พิถีพิถันทุกขั้นตอน และดำเนินพิธีกรรมตามแบบแผนดั้งเดิมของวัดสุทัศน์อย่างเคร่งครัด จึงนับเป็นหนึ่งในพระกริ่งยุคหลังที่มีความลึกซึ้งทั้งในด้านพุทธศิลป์ พุทธคุณ มวลสาร และประวัติการสร้างที่เด่นชัดหายากยิ่ง
ปฐมเหตุของการสร้างพระกริ่งรุ่นนี้
เกิดขึ้นเมื่อปีพุทธศักราช 2517 ท่านเจ้าคุณศรีได้กล่าวปรารภว่าในปีนั้นฤกษ์ยามดี เหมาะแก่การสร้างวัตถุมงคล จึงมีดำริให้ประกอบพิธีหล่อพระกริ่งขึ้นเป็นรุ่นแรกของปี โดยตั้งใจหล่อในวันเสาร์ห้า ซึ่งถือเป็นวันแข็ง วันมงคลสูง และเลือกสร้างเป็นเนื้อนวโลหะเต็มสูตรตามตำราของสมเด็จพระสังฆราชแพ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ของท่าน ทั้งนี้ท่านยังได้คัดสรรชนวนมวลสารสำคัญที่เก็บรักษาไว้แต่โบราณ เช่น ชนวนพระกริ่ง 79 ของสมเด็จสังฆราชแพ พระยันต์เกจิยุคก่อนและหลังปี 2500 ที่ท่านสะสมไว้ รวมถึงช่อชนวนที่ผ่านพิธีต่างๆ มาแล้ว ท่านยังได้รับแร่เหล็กละลายขนาดเท่ากำปั้นจากหลานของท่านเจ้าคุณศรี สนธิ์ มาผสมเพิ่มเติมให้เนื้อโลหะเข้มขลังยิ่งขึ้น
แม่พิมพ์ที่ใช้สร้างพระกริ่งรุ่นนี้ได้มาจากการถอดพิมพ์พระกริ่ง 79 ของสมเด็จพระสังฆราชแพ ที่สร้างขึ้นในขณะที่ยังทรงดำรงสมณศักดิ์เป็นสมเด็จพระวันรัต จึงถือเป็นพิมพ์ที่มีความหมายและคุณค่ายิ่ง เมื่อถึงฤกษ์หล่อจริง ขณะที่กำลังหลอมน้ำทองก็เกิดเหตุอัศจรรย์ ฟ้าผ่าฟ้าร้องคำรามไม่ขาดสาย ท่านเจ้าคุณพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นนิมิตที่ดี จึงตั้งนามพระรุ่นนี้ว่า พระกริ่ง 79 เสาร์ห้า ฟ้าลั่น
ตั้งใจหล่อไว้จำนวนสองร้อยองค์ แต่เนื่องจากชนวนเก่าและเนื้อนวโลหะตามสูตรโบราณมีความเหนียวและแล่นตัวได้ยาก น้ำทองจึงไม่เดินดี ส่งผลให้พระที่ได้มีสภาพดีเพียงเจ็ดสิบองค์เท่านั้น ที่เหลือทั้งหมดเสียจากสาเหตุโลหะหมดยางและผ่านการหลอมมาหลายครั้ง ทำให้การควบคุมคุณภาพเป็นเรื่องยากมาก นี่คือที่มาของพระกริ่งฟ้าลั่นชุดแรก หรือที่เรียกกันว่า เบ้าแรก
เมื่อหล่อได้ไม่ครบตามเจตนา ท่านเจ้าคุณจึงนำพระที่เสียทั้งหมด รวมทั้งช่อชนวนและน้ำทองที่เหลือจากพิธีแรก มาหล่อใหม่อีกครั้งในพื้นที่ลานโล่งของคณะสอง โดยยังคงใช้แม่พิมพ์เดิม เพียงปรับรายละเอียดเล็กน้อยให้สมบูรณ์ขึ้น เพื่อให้ได้จำนวนพระครบตามที่ตั้งใจไว้และยังคงรักษามาตรฐานตามตำราอย่างเคร่งครัด พระที่หล่อครั้งนี้จึงถูกเรียกว่า เบ้า 2
พระกริ่งที่ท่านเจ้าคุณศรีสร้างในปี 2517 นี้มีเอกลักษณ์แตกต่างจากพระกริ่งที่เป็นกระแสนิยมทั่วไปอย่างสิ้นเชิง เพราะท่านสร้างด้วยเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีการพาณิชย์ใดๆ ทั้งสิ้น ท่านต้องการให้ผู้ร่วมบุญมีวัตถุมงคลที่ดี มีคุณค่า และเป็นที่ยึดเหนี่ยวทางใจ อีกทั้งทุกพิธีกรรมล้วนทำที่วัดสุทัศน์ ซึ่งถือเป็นสถานที่ประกอบพิธีปลุกเสกพระกริ่งตามสายโบราณอย่างแท้จริง ที่สำคัญยังเป็นวัดที่ประดิษฐานพระอสีติมหาสาวกในพระอุโบสถครบองค์ สมเด็จพระสังฆราชแพเคยตรัสว่า ไม่มีโบสถ์ใดทำพิธีปลุกเสกได้ศักดิ์สิทธิ์เท่าโบสถ์วัดสุทัศน์ เพราะด้วยบารมีของพระอสีติมหาสาวกที่ประดิษฐานอยู่ภายใน
พระกริ่งฟ้าลั่นจึงเป็นพระที่มีความหมายอย่างลึกซึ้งในทุกมิติ ทั้งด้านประวัติความเป็นมา มวลสาร พิธีกรรม ความตั้งใจของผู้สร้าง รวมถึงความหายากเพราะท่านเจ้าคุณศรีสร้างพระกริ่งเพียงไม่กี่รุ่น แต่ละรุ่นมีจำนวนสร้างเพียงร้อยถึงสองร้อยองค์เท่านั้น ทำให้เป็นพระที่นับวันยิ่งหายาก มีคุณค่าทั้งเชิงพุทธศิลป์และคุณค่าทางจิตใจอย่างสูง ผู้ใดมีไว้ย่อมถือว่าเป็นผู้โชคดีที่ได้ครอบครองหนึ่งในงานสร้างที่งดงามบริสุทธิ์ที่สุดของสายวัดสุทัศน์
กริ่งฟ้าลั่นจึงไม่ใช่เพียงวัตถุมงคล หากแต่เป็นงานสร้างที่เต็มไปด้วยศรัทธาเจตนาบริสุทธิ์ สืบสายตำราพระกริ่งแท้ที่สืบทอดมาจากครูบาอาจารย์ระดับสูงสุดของวัดสุทัศน์ และเป็นหนึ่งในประวัติศาสตร์การสร้างพระกริ่งยุคใหม่ที่สมบูรณ์แบบทั้งในด้านจิตตภาวนา พิธีกรรม และความหมายแห่งความมงคลอย่างแท้จริง
![]()











Reviews
There are no reviews yet.