พระกริ่งธิเบต รุ่นสอง เนื้อนวะก้นเงิน ปี2548 ครูบาบุญชุ่ม วัดพระธาตุดอนเรือง พร้อมกล่องเดิม หายากมากๆ
ครูบาบุญชุ่ม
เป็นศิษย์ของหลวงปู่โง่น โสรโย วัดพระบาทเขารวกและหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ วัดสะแก ทั้งสององค์นี้ต่างยอมรับในคุณธรรมและบารมีธรรมของครูบาบุญชุ่มมาก เวลาท่านอธิษฐานจิตวัตถุมงคล ด้วยความชำนาญในกรรมฐานอย่างยิ่ง ท่านสามารถเสกของในเวลาชั่วหายใจเข้าออกก็สำเร็จและของนั้นก็มีอานุภาพกันอาวุธสงครามให้ทหารพม่าได้ตื่นตะลึงจนนำไปสู่ความ เลื่อมใสอย่างยิ่ง ในพม่าสมัยก่อนจะมีพระอยู่สององค์ที่คนพม่ารู้จักชื่อเสียงไปทั้งประเทศคือ หลวงพ่ออุตตมะ และครูบาบุญชุ่มนี่เอง ทั้งเรื่องอำนาจจิตและบารมีธรรมของครูบาบุญชุ่มไม่ใช่ของที่มองข้ามได้เลย
เมื่อพระครูบาฯ อายุได้ 4 ขวบ แม่อุ้ยนางหลวงและคุณแม่แสงหล้าได้ย้ายจากบ้านด้ายไปอยู่บ้านทาดอนชัย ตำบลป่าสัก อำเภอสันกำแพง เชียงใหม่ และสมรสใหม่กับนายสม ชัยวงศ์คำ ครอบครัวของเด็กชายบุญชุ่ม ลำบากมาก บ้านก็ถูกรื้อขาย แล้วอพยพไปอยู่เชิงดอยม่อนเรียบ ทำกระต๊อบน้อยอยู่กัน 5 คน แม่ลูก ถึงแม้ชีวิตท่านจะลำบากเพียงใดก็ไม่เคยเป็นเด็กเกเร ลักเล็กขโมยน้อยเด็ดขาย แม่แสงหล้าจะสอนว่า “ห้ามลักขโมยของคนอื่นมาโดยเด็ดขาด” วันหน้าถ้ามีบุญก็จะสบายได้แล ชีวิตความเป็นอยู่ของพระครูบาเจ้าฯ ช่างน่าสังเวช ทุกข์ลำบากเหมือนกับว่า ในโลกนี้บ่มีใครเท่าเทียมได้ ทุกสิ่งทุกอย่าง ทุกข์และสุขก็เป็นอนิจจัง ทุกข์ขัง อนัตตา เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ไม่เที่ยงเป็นทุกข์ทนลำบากไม่ใช่ตัวตนของเราบังคับไม่ได้ พิจารณาให้ถี่ถ้วนแล้ว พึงจะเบื่อหน่ายการเกิด การตาย ทุกข์ในวัฏฏะสงสารพึงสละละวางความยึดมั่น ถือมั่น พึงคลาย ความอาลัยในตัณหาตัวนำมาเกิด พึงละอวิชชา ความไม่รู้นำมาเกิดภพชาติ ชรามรณะทุกข์ เวียนว่าย ตายเกิด หาที่สุดเบื้องต้นเบื้องปลายบ่มิได้พึงสังเวชเบื่อหน่ายโลกาอามิสทั้งปวงพึง มีจิตยินดีในพระนิพพานเป็นอารมณ์ รีบขวนขวายหาทางดับทุกข์ ความเกิดแก่เจ็บตาย จงสร้างแต่กุศลบุญทาน รักษาศีลภาวนา อย่าขาด อย่าประมาทในชีวิตสังขารไม่ยั่งยืน ไม่รู้ว่าเราจะตายวันใด ที่ไหน เวลาใด ใครไม่สามารถกำหนดได้ ขอให้ทุกคน เราท่านทั้งหลายจงทำดีให้หนีวัฏฏะสงสารไม่ต้องกลับมาเกิดอีกเพราะการเกิด บ่อย ๆ เป็นทุกข์
จากนั้นเมื่อปี พ.ศ.2517 ได้เข้ามาเป็นเด็กวัด โดยมีพ่อลุงทาเอาไปฝากกับเจ้าอธิการสิน จิรธัมโม วัดบ้านด้าย ตอนท่านอายุได้ 11 ปี หลังจากเป็นเด็กวัดได้ 3 ปี จึงได้บรรพชาเป็นสามเณร ท่านชอบสงบอยากบวชตั้งแต่อายุ 4-5 ปีแล้ว ในสมัยเป็นเด็กนักเรียนชอบนั่งสมาธิภาวนาไม่สุงสิงกับใคร เวลาว่างก็เดินจงกรมที่สนามหญ้าโรงเรียน จนเพื่อนฝูงว่าท่านเป็นบ้า ใครจะว่าอย่างไรไม่สนใจ ท่านถือว่าได้ปฏิบัติตามแนวทางของพระพุทธเจ้า
ใน พ.ศ.2519 ครูบาเจ้าบุญชุ่ม ได้บวชเรียนตามปณิธานที่ตั้งไว้ตั้งแต่เยาว์วัย ถึงเวลาท่านก็กำหนดขอขมาลุงและป้าแทนพ่อแม่ แล้วจึงอาบน้ำและนุ่งผ้าขาวในคืนหนึ่ง พอใกล้รุ่งท่านนิมิตเห็นหลวงพ่อปู่องค์หนึ่งแก่ ๆ ผมหงอกสักไม้เท้าจากต้นโพธิ์ใหญ่ที่ในวัดเดินเข้ามาห่านแล้วสอนธรรม กัมมัฏฐานให้ภาวนาว่า พุทโธๆและบอกว่าให้หมั่นภาวนาในภายหน้าจะได้เป็นครูบาอาจารย์เป็นที่พึ่งของ คนทั่วไปและมนุษย์โลกทั้งหลาย แล้วท่านครูบาเฒ่าก็เดินลับหายไป พอสว่างก็ได้ไปบรรพชาเป็นสามเณรที่วัดศรีบุญยืน ตำบลป่าสัก อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย โดยมีพระครูหิรัญเขตคณารักษ์ วัดศรีบุญเรือง อำเภอแม่จัน เจ้าคณะอำเภอเชียงแสนเป็นองค์พระอุปัชฌาย์ บรรพชาเป็นสามเณรเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2519.
ระหว่างบรรพชา มีหลวงพ่อธุดงค์องค์หนึ่งอยู่อำเภอจุน จ.พะเยา ได้นำเอาพระบรมสารีริกธาตุมามอบให้พระครูบาเจ้าฯ เมื่อท่านได้รับพระบรมสารีริกธาตุมาแล้ว ได้น้อมจิตพิจารณาว่า กระดูกของสัตว์โลกทั้งหลายนั้น นับตั้งแต่เวียนว่าย ตายเกิด ในวัฏฏสงสารนี้ หากนำมากองรวมกัน คงกองใหญ่เป็นภูเขาทีเดียว หากแยกกันก็กระจัดกระจายอย่างที่เห็น กระดูกแข้งไปทางหนึ่ง กระดูกเข่าไปอีกทางหนึ่ง กระดูกข้อเท้าไปทางอื่น กระดูกข้อนิ้วเท้าก็กระจัดกระจายไปทางอื่น กระดูกทุกส่วนแยกออกจากกันไปคนละที่คนละแห่ง แล้วก็ผุพังกลายเป็นดินเป็นจุลไป ท่านก็น้อมพิจารณาเข้ามาในกายแห่งตนว่า “เอวงฺธมฺโม เอวงฺอนตฺติโต”
จากนั้นท่านจึงไปจำศีลภาวนาแล้วสร้างพระธาตุขึ้น ชื่อว่าพระธาตุงำเมือง ดอยท้าววัง นั่งเรือไปๆมาๆอยู่ที่เมืองพงนี้เหมือนบ้านเกิด คิดว่าในอดีตชาติคงเคยสร้างบารมีในที่นี้ หลังจากได้สร้าง พระธาตุบ้านป่าข่า พระธาตุงำเมืองเสร็จแล้ว ท่านได้เดินธุดงค์ด้วยเท้าเปล่าไปเมืองยอง ไปกราบพระธาตุหลวงจอมยอง กลับมาป่วยเป็นไข้มาเลเรียเกือบตาย แล้วท่านได้มาเข้าพรรษาที่วัดทุ่งหลวง อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ โดยมีหลวงปู่ครูบาเจ้าธรรมชัยเป็นองค์รักษาไข้ คุณแม่ก็มาเยี่ยมเยียนตลอดโดยให้น้องชายบวชเณรอยู่ด้วย ในพรรษาที่ 5 ท่านได้มาจำพรรษาอยู่ที่วัดจอมแจ้ง บ้านกาดขี้เหล็ก ต.แม่โป่ง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ โดยมีคุณแม่ย่าคำแปง คุณธนิต นิ่มพันธ์ คุณตุ๊ คุณสมศักดิ์ คุณอุไร และเจ้าพ่อน้อยโสภณ ณ เชียงใหม่ และญาติโยมหลายๆคนเป็นผู้อุปัฏฐากดูแล
ในพรรษาโยมแม่ก็มาเยี่ยมถือศีลด้วยบางครั้งบางคราว ท่านไปสร้าง พระธาตุจอมศรีดับเภมุงเมือง ต.เมืองพง พม่า และมาสร้างวัดพระเจ้าล้านทอง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ คุณแม่ก็ตามไปเยี่ยมร่วมทำบุญทุกที่ พรรษานี้ท่านอยากมาจำพรรษาที่เมืองพง แม่ย่าคำแปงให้จับฉลาก 2-3 ครั้ง ก็จับได้ที่วัดจอมแจ้งที่เดิม ท่านจึงได้มาจำพรรษาที่วัดจอมแจ้งอีกในปีนี้ ท่านมีความสุขอิ่มเอมในพระธรรม
อยู่กุฏิวิเวกองค์เดียว ได้อารมณ์กัมมัฏฐานดีมาก เดินจงกรมก็สบาย มีสมาธิตั้งมั่น ทั้งนี้ในช่วงบรรพชาเป็นสามเณร ได้ไปจำพรรษาแสวงบุญที่อินเดีย เมียนมา เนปาล ป่าหิมพานต์ ผ่านการสร้างและบูรณะพระธาตุต่างๆ และชดใช้วิบากกรรมในอดีตชาติ จากนั้นจึงอุปสมบท ใน ปี พ.ศ.2529 และมีโอกาสไปจำพรรษาที่ประเทศภูฏาน โดยเมื่อวันที่ 5 ม.ค.2548 สมเด็จพระราชินีภูฏานร่วมกับพระราชวงศ์ จัดงานอายุวัฒนะมงคลถวายพระครูบาเจ้าฯ เพื่อเป็นมุทิตาจิตสักการะต่อวัตรปฏิบัติที่งดงามของพระครูบาเจ้าฯตลอดมา..
นับแต่ออกบวช ครูบาบุญชุ่มมุ่งเน้นเรียนกรรมฐานจากครูบาอาจารย์หลายองค์ ได้จาริกไปหลายท้องที่ทั้งภาคเหนือของไทย พม่า เนปาล อินเดีย ภูฏาน ฯลฯ เมื่อพบเห็นวัดใดทรุดโทรมก็เป็นผู้นำในการบูรณะ และได้สร้างพระธาตุเจดีย์ วิหาร พระพุทธรูป ไว้หลายแห่งในภาคเหนือ รัฐชาน สิบสองปันนา และประเทศลา
พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย
. https://ponsrithong.com/
web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง
Web ( มุมพระ) : มุมพระ
https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507
web (99wat) : 99วัด
http://www.ponsrithong.99wat.com/
Facebook เพจพลศรีทอง พระเครื่อง บู เชียงราย
: https://www.facebook.com/ponsrithong/
IG :https://www.instagram.com/bu_chiangrai.amulet/
![]()






![พระกริ่ง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เนื้อนวโลหะผสมทองคำแท้ ก้นเงิน วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา ปี2539 พร้อมตลับเนื้อ เหรียญ25สตางค์ แกะมือไม่ลอกไม่ดำ รับพร รับทรัพย์ กับพระกริ่งขุมทรัพย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อพุธ เป็นศิษย์ทั้งหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ท่านชำนาญเรื่องไสยศาสตร์มาก่อน เมื่อออกปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิตแล้ว จึงเกิดอิทธิฤทธิ์อย่างอัศจรรย์ ญาณหยั่งรู้ของท่าน ไม่ธรรมดา ไม่มีอะไรปิดบังได้ อำนาจจิตของท่าน ยิ่งเหนือโลก เหนือธรรมดา พระกริ่งรุ้นนี้ หลวงพ่ออธิษฐานอย่างเต็มกำลังเมื่อปี ๒๕๓๙ จึงไม่แปลกที่พระกริ่งรุ่นนี้ จะมีประสบการณ์ ครอบจักรวาล ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อพุธอนุญาติให้จัดสร้างด้วยเหตุที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ให้สร้างวัตถุมงคลอีกต่อไป รุ่นขุมทรัพย์ เป็นรุ่นสุดท้าย ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ ปลุกเสกเดี่ยว ตั้งเเต่เสาร์ ๕ ตลอดไตรมาส ปี ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ เททองเนื้อนวะผสมทองคำเเท้ หลอมรวม ได้ชื่อเรียก "ขุมทรัพย์" เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์บารมีเข้มขลัง บันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ความสุข ความเจริญโชคลาภ และความเจริญวัฒนาตลอดไป ที่อุโบสถ วัดป่าสาลวัน จังหวัด นครราชสีมา วันพุธที่ ๒๔ ม.ค. ๒๕๓๙ พระชัยวัฒน์ เสาร์ ๕ รุ่น ขุมทรัพย์ พระรุ่นนี้ทั้งชุดเด่นเรื่อง โชคลาภ เมตตามหานิยม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านมีนามเดิมว่า พุธ อินทรหา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ณ บ้านหนองหญ้าเส้ง ตำบลสันประดู่ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ 4 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม บิดามีความเสียใจเป็นอันมากจึงนำท่านย้ายมาอยู่บ้านเกิดของบิดาที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร อุปสมบท ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้ออกศึกษาหาความรู้ ในโรงเรียนประชาบาลวัดไทรทอง ท่านได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงได้ลาออกมาแล้วบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2479เมื่อมีอายุได้ 15 ปี ที่วัดอินทร์สุวรรณ บ้าน โคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมีท่าน พระครูวิบูลย์ธรรมขันธ์ เจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์เป็นพระบรรพชาจารย์ เรียนรู้ธรรม หลังจากบรรพชาแล้ว ท่านก็อาศัยอยู่กับท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์นั่นเอง ท่านได้รับเมตตา จากพระอาจารย์ให้ได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมด้วย และในพรรษาแรกนี้เอง สามเณรพุธสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี[2] และเริ่มรับการฝึกอบรมด้าน ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปีพ.ศ. 2483 ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม (วัดสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลวงพ่อได้จำพรรษาเรื่อยมาจนอายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดแห่งนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยงานพระศาสนาตลอดมา[3] และในช่วงสงครามแปซิฟิก ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2489 ระหว่างนั้นท่านเกิดอาพาธเป็นวัณโรคอย่างหนัก ต่อมาท่านได้พบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการสอนให้เพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยัง คอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา[4] จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2513[5] ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย[6] และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน[7] มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ – นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ – อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา – รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย ละสังขาร หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริอายุได้ 78 ปี พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507 Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/ This amulet get a lifelong warranty. If you are audited there was spurious. My shop (Ponsrithong Amulet) Refund the full amount lifelong. And in the future if you want to sell amulet with the warranty card. The Center amulet welcomes to buy in the market price of 20%. by bule chiangrai +66877124640](https://ponsrithong.com/wp-content/uploads/2021/03/90-300x180.jpg)
![พระกริ่ง หลวงพ่อพุธ ฐานิโย เนื้อนวโลหะผสมทองคำแท้ ก้นเงิน วัดป่าสาลวัน นครราชสีมา ปี2539 พร้อมตลับเนื้อ เหรียญ25สตางค์ แกะมือไม่ลอกไม่ดำ รับพร รับทรัพย์ กับพระกริ่งขุมทรัพย์ หลวงพ่อพุธ ฐานิโย วัดป่าสาลวัน หลวงพ่อพุธ เป็นศิษย์ทั้งหลวงปู่เสาร์ และหลวงปู่มั่น ท่านชำนาญเรื่องไสยศาสตร์มาก่อน เมื่อออกปฏิบัติบำเพ็ญเพียรทางจิตแล้ว จึงเกิดอิทธิฤทธิ์อย่างอัศจรรย์ ญาณหยั่งรู้ของท่าน ไม่ธรรมดา ไม่มีอะไรปิดบังได้ อำนาจจิตของท่าน ยิ่งเหนือโลก เหนือธรรมดา พระกริ่งรุ้นนี้ หลวงพ่ออธิษฐานอย่างเต็มกำลังเมื่อปี ๒๕๓๙ จึงไม่แปลกที่พระกริ่งรุ่นนี้ จะมีประสบการณ์ ครอบจักรวาล ถือเป็นรุ่นสุดท้ายที่หลวงพ่อพุธอนุญาติให้จัดสร้างด้วยเหตุที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อไม่ให้สร้างวัตถุมงคลอีกต่อไป รุ่นขุมทรัพย์ เป็นรุ่นสุดท้าย ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ ปลุกเสกเดี่ยว ตั้งเเต่เสาร์ ๕ ตลอดไตรมาส ปี ๒๕๓๙ หลวงพ่อพุธ เททองเนื้อนวะผสมทองคำเเท้ หลอมรวม ได้ชื่อเรียก "ขุมทรัพย์" เพื่อให้มีความศักดิ์สิทธิ์บารมีเข้มขลัง บันดาลความเจริญรุ่งเรือง ความสำเร็จ ความสุข ความเจริญโชคลาภ และความเจริญวัฒนาตลอดไป ที่อุโบสถ วัดป่าสาลวัน จังหวัด นครราชสีมา วันพุธที่ ๒๔ ม.ค. ๒๕๓๙ พระชัยวัฒน์ เสาร์ ๕ รุ่น ขุมทรัพย์ พระรุ่นนี้ทั้งชุดเด่นเรื่อง โชคลาภ เมตตามหานิยม หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ท่านมีนามเดิมว่า พุธ อินทรหา ท่านเกิดเมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2464 ณ บ้านหนองหญ้าเส้ง ตำบลสันประดู่ อำเภอหนองโดน จังหวัดสระบุรี เป็นบุตรคนเดียวของบิดามารดา ครอบครัวมีอาชีพทำนาทำไร่ ในช่วงอายุได้ 4 ขวบ มารดาได้ถึงแก่กรรม บิดามีความเสียใจเป็นอันมากจึงนำท่านย้ายมาอยู่บ้านเกิดของบิดาที่ หมู่บ้านโคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร อุปสมบท ในช่วงวัยเยาว์ ท่านได้ออกศึกษาหาความรู้ ในโรงเรียนประชาบาลวัดไทรทอง ท่านได้เรียนจบชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 จึงได้ลาออกมาแล้วบรรพชาเป็นสามเณรเมื่อปี พ.ศ. 2479เมื่อมีอายุได้ 15 ปี ที่วัดอินทร์สุวรรณ บ้าน โคกพุทรา ตำบลตาลเนิ้ง อำเภอสว่างแดนดิน จังหวัดสกลนคร โดยมีท่าน พระครูวิบูลย์ธรรมขันธ์ เจ้าคณะอำเภอสว่างแดนดิน เป็นพระอุปัชฌาย์ และท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์เป็นพระบรรพชาจารย์ เรียนรู้ธรรม หลังจากบรรพชาแล้ว ท่านก็อาศัยอยู่กับท่านพระครูโพธิภูมิไพโรจน์นั่นเอง ท่านได้รับเมตตา จากพระอาจารย์ให้ได้ศึกษาทางด้านปริยัติธรรมด้วย และในพรรษาแรกนี้เอง สามเณรพุธสามารถสอบได้นักธรรมชั้นตรี[2] และเริ่มรับการฝึกอบรมด้าน ปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จากท่านพระอาจารย์เสาร์เป็นครั้งแรก ต่อมาในปีพ.ศ. 2483 ท่านพระอาจารย์เสาร์ ได้พาหลวงพ่อไปฝากตัวเป็นศิษย์พระปัญญาพิศาลเถร (หนู ฐิตปญฺโญ) ณ วัดปทุมวนาราม (วัดสระปทุม) กรุงเทพมหานคร ซึ่งหลวงพ่อได้จำพรรษาเรื่อยมาจนอายุครบบวช 21 ปี จึงได้อุปสมบทเมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2485 ณ วัดแห่งนี้ หลวงพ่อได้ปฏิบัติศาสนกิจช่วยงานพระศาสนาตลอดมา[3] และในช่วงสงครามแปซิฟิก ท่านได้อพยพกลับไปจำพรรษาที่วัดบูรพา จังหวัดอุบลราชธานี และท่านได้อยู่จำพรรษาที่วัดแห่งนั้นจนถึงปี พ.ศ. 2489 ระหว่างนั้นท่านเกิดอาพาธเป็นวัณโรคอย่างหนัก ต่อมาท่านได้พบกับหลวงปู่ฝั้น อาจาโร และท่านก็ได้ช่วยรักษาโดยการสอนให้เพ่งอาการ 32 โดยให้พิจารณาถึงความตายให้มากที่สุด ทั้งยัง คอยให้กำลังใจกับท่านตลอดเวลา[4] จนกระทั่งเมื่อปี พ.ศ. 2513[5] ท่านได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป่าสาลวัน ในระยะเวลาที่ท่านเป็นเจ้าอาวาส ท่านปฏิบัติกิจของสงฆ์อย่างไม่หยุดยั้ง และทำหน้าที่เป็นวิทยากรบรรยายธรรม สร้างคุณประโยชน์ต่อศาสนามากมาย[6] และได้สร้างโรงเรียนราชอุปถัมภ์ สร้างอาคารให้เด็กนักเรียน[7] มอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงเรียน ตลอดจนหน่วยงาน ราชการต่างๆ – นอกจากนี้ท่านยังช่วยจัดซื้อเครื่องมือแพทย์ให้กับโรงพยาบาลเสมอๆ – อีกทั้งยังมอบทุนสนับสนุนการก่อสร้างตึกสงฆ์อาพาธ โรงพยาบาล มหาราช จังหวัดนครราชสีมา – รวมทั้งมอบทุนสนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิของโรงพยาบาลต่างๆ อีกด้วย ละสังขาร หลวงพ่อพุธ ฐานิโย ได้ถึงแก่มรณภาพเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2542 รวมสิริอายุได้ 78 ปี พลศรีทอง พระเครื่อง โดย บู เชียงราย web (main) พระเครื่อง : บู เชียงราย ร้านพลศรีทอง พระเครื่อง Web ( มุมพระ) : มุมพระ https://www.mumpra.com/shop.php?shopid=507 Facebook : https://www.facebook.com/ponsrithong/ This amulet get a lifelong warranty. If you are audited there was spurious. My shop (Ponsrithong Amulet) Refund the full amount lifelong. And in the future if you want to sell amulet with the warranty card. The Center amulet welcomes to buy in the market price of 20%. by bule chiangrai +66877124640](https://ponsrithong.com/wp-content/uploads/2021/03/114-300x180.jpg)




Reviews
There are no reviews yet.